Winnie The Pooh Bear

Tech &Tips

TECH & TIPS


เทคนิคการทำ WEB ให้ติดอันดับ


1). การทำ Search Engineการทำ Search Engine

    ฟัง เหมือนง่าย แต่ยากที่จะทำ แต่เป็นกลยุทธ์ที่จะทำให้คนเข้าเว็บไซต์ของเราได้เยอะที่สุดและดีที่สุด เพราะ 80% นั้นคนที่เข้าเว็บไซต์ของเรามาจาก Search Engine กันทั้งนั้น โดยการทำ เว็บไซต์ให้ Google รู้จักนั้น มีดังนี้
1.1  ใส่ Keyword ใน Title ของหน้าเว็บ
    การ ใส่ keywords ใน title นี้จะช่วยทำให้ Search Engine ต่างๆ รู้ว่า เว็บเราทำเรื่องเกี่ยวกับอะไร มีผลกับการทำ adsense ด้วยนะ เพราะโฆษณาที่ปรากฏนี้จะอ่านจาก title นี้เป็นสำคัญทีเดียวตัวอย่างการใช้งาน : [title] keyword หลัก , keyword รอง , keyword อื่นๆ [/title] เป็นต้น
1.2  การใส่ Key Word ที่ต้องการในส่วนด้านบนของเว็บไซต์และการเน้นด้วยตัวหนาใส่ keywords ที่เราต้องการให้ระบบของ google จับไปว่า เว็บไซต์ของเราทำเรื่องเกี่ยวกับอะไรนั้น ก็ควรใส่ keywords นั้นๆ เป็นตัวหนา เป็น head1 head2 ยิ่งดีนะ เพราะ พวก search Engine ที่เข้ามาเก็บข้อมูลนั้นจะได้เข้ามาได้ง่ายๆ และรู้ว่า ทั้งเว็บนี้คือเรื่องอะไร
ตัวอย่างการใช้งาน [H1] Keyword [/h1] หรือ [H2] Keyword [/H2]
ตัวอย่างการใช้งาน : [BODY][B] Keyword [/B][/BODY]
1.3  หลีกเลี่ยงการออกแบบเว็บไซต์ด้วย Flash หรือรูปภาพเยอะ
ไม่ มีตัวหนังสือการทำเว็บไซต์ด้วยการมี flash หรือรูปภาพล้วนๆ นั้น Search Engine ต่างๆ เมื่อเข้ามาถึงเว็บไซต์เราแล้ว จะอ่านไม่ออกนะ ดังนั้น หลีกเลี่ยงการใช้ flash หรือรูปภาพ มีได้บ้างเล็กน้อย แต่อย่าทำทั้งเว็บ เพราะ Search engine มันอ่านได้แต่ตัวอักษรหรือ html ปกติเท่านั้น
1.4  หลีกเลี่ยงใช้ออกแบบเว็บไซต์ด้วยเฟรม
การใช้เฟรม ก็เป็นการออกแบบเว็บไซต์อีกแบบที่ Search Engine อ่านข้อมูลในเว็บไซต์เรา แล้วไม่เจอ ดังนั้น หลีกเลี่ยงการใช้ 
1.5  ใช้ keyword ที่บริเวณ ลิงค์เชื่อมโยงมาตรฐาน (Standard Text Link)
คือ การเชื่อมโยงในลักษณะ การใช้ Text link เป็นตัวเชื่อมโยง แล้วแทรก Keyword ผสมเข้าไปด้วย
ตัวอย่างการใช้งาน :[a href=http://www.basicstep.blogspot.com/] Keyword [/a]
1.6  ควรตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ และใส่คำอธิบายให้กับภาพการตั้งชื่อไฟล์รูปภาพ และการใส่คำอธิบายให้กับภาพนั้น มีผลมากๆ กับการทำ AdSense เพราะระบบของ google จะวิ่งมาจับแม้กระทั่งชื่อรูปภาพที่เราใส่ลงไปด้วยนะ ว่าในเว็บเราเป็นเกี่ยวกับเรื่องอะไร เช่น เปิ้ลทำเรื่องดูดวง รูปภาพก็ควรเป็น horoscope-1.jpg เป็นต้น ไม่ใช่ ใช้ image1.jpg ค่ะ และเน้นย้ำรูปภาพด้วย keywords ซ้ำ ด้วย Alt ตัวอย่างการใช้งาน : [img src="images address" alt="Keyword"]
1.7  จด Domain name ด้วย Keyword
(Domain name register)การใช้ Keyword หลักของเว็บในการจด Domain name นั้นหากทำได้ดีถือว่ามีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว เพราะระบบ AdSense จะมองที่ domain เป็นสำคัญ
ตัวอย่างการใช้งาน : http://www.basicstep.blogspot.com/
1.8  เรียก Robot เข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ เราสามารถเรียก robot ของ google ให้เข้ามาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์เราได้โดย เข้าไปที่ http://www.google.com/addurl/ เพื่อ add ชื่อเว็บไซต์ของเรา เพื่อให้ google เข้าไปเก็บข้อมูลและเนื้อหาของเราและใส่ เว็บไซต์ของเราลงไปในฐานข้อมูลของ google
1.9  แลกลิงค์กับเว็บไซต์อื่นๆ
อัน นี้คงแทบไม่ต้องบอกกันเลยมั๊งค่ะ ว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง?? เพราะเป็นวิธีที่นิยมกันมามากแล้ว คือ ไปติดต่อกับเว็บไซต์ต่างๆ เพื่อขอแลกลิงค์กับเว็บไซต์นั้นๆ เมื่อมีผู้เข้าชมที่เราแลกลิงค์ด้วย เขาก็อาจจะแวะเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเช่นกัน ข้อควรระวัง : ควรแลกลิงค์กับเว็บไซต์ที่ถูกกฎหมายและศีลธรรมนะคะ คือไม่ควรแลกลิงค์กับเว็บไซต์ ลามก, อบายมุขทั้งหลาย เพราะเราอาจจะติดร่างแห เข้าร่วมวงดนตรี “google ban” ได้ง่ายๆ
1.10  ทำ Site Map ให้กับเว็บไซต์ของคุณ
การ ทำ Site Map นี้ จะช่วยให้ เมื่อระบบของ google วิ่งมาในเว็บไซต์เราแล้ว รู้ว่า ควรจะไปทางไหน เหมือนกับเป็นแผนที่นำทาง พา google ไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เราให้ครบทุกจุด

2). การเพิ่ม link

              การ เพิ่ม link เป็นหลักสำคัญมากอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยให้มีคนรู้จักเว็บไซต์ของเรา โดยที่การเพิ่ม link มีอยู่ 2 แบบ คือ การแลกลิงค์ (Link Exchange) และ การทำ one way link การแลกลิงค์ (Link Exchange) ก็อย่างที่เราทราบๆ กันดีนะว่า ส่งไปขอให้เว็บไซต์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรา ส่ง link มาให้เรา และทางเว็บไซต์ของเราเองก็ส่ง link กลับไปให้ทางเว็บไซต์ของเขาด้วยเช่นกันส่วนการทำ one way link นั้น ถ้าแปลกันตรงๆ ก็คือ ทำ link ทางเดียว ด้วยการที่ ทำอย่างไรก็ได้ ให้เขาส่ง link ให้เรา แต่เราจะไม่ส่ง link กลับไปให้ทางเว็บไซต์นั้นๆ ที่ส่งมาให้ เช่น การที่เว็บของเรามีเนื้อหาที่ดี ก็จะมีบางเว็บไซต์นำ link ของเราไปติดที่เว็บไซต์ของเขา โดยที่เราไม่ต้องร้องขอค่ะ ซึ่ง link ที่ได้มานี้ จะทำให้เว็บเราได้รับคะแนนจาก google ดีขึ้น และช่วยในการทำ SEO เป็นอย่างดีทีเดียว

3). การทำ E-mail Ads

     การ ทำ E-mail Ads นั้น ก็คือ การทำโฆษณาผ่านทาง e-mail นั่นเอง แต่ส่วนใหญ่เมล์ลักษณะนี้ เป็นลักษณะของการทำ spam mail ซะส่วนใหญ่ ทำให้ไม่น่าเชื่อถือ เท่าที่ควร ถ้าเราไม่ทำการ spam mail แล้วล่ะก็ การทำ e-mail ads นั้น ถือว่า เป็นการโปรโมทเว็บไซต์ของเราที่ได้ผลดีที่สุดเลยทีเดียว ส่วนการทำ E-mail ads นั้น ก็สามารถเริ่มทำได้จากการที่ทำหน้า ให้รับ newsletter ที่หน้าเว็บไซต์ของเราเอง ข้อมูลของสมาชิกที่เข้ารับ newsletter จากเรานั้น ก็จะถูกเก็บเป็นฐานข้อมูล เพื่อใช้ในการโปรโมทเว็บไซต์ของเราในเว็บที่สร้างใหม่ได้เรื่อยๆ

4). การทำ signature

      การ ทำ Signature นั้น เป็นลักษณะของการทำ One way link อีกแบบหนึ่งเช่นกัน เราสามารถทำ signature ได้ง่ายๆ ด้วยการทำ signature ใน e-mail ของเราเอง เพราะเมล์บางฉบับที่เรา fwd ต่อๆ กันไปนั้น อาจจะมีคนสนใจแล้วเขามาที่เว็บไซต์เราก็เป็นได้ หรือ อาจจะทำ signature ตาม web board ต่างๆ ที่มีกันอยู่อย่างมากมาย เมื่อเราโพสบ่อยๆ เข้า link ก็จะสร้างขึ้นมาเรื่อยๆ ถือว่าการทำ signature นี้ เป็นการสร้าง link ให้กับเว็บไซต์ของเราได้เป็นอย่างดี อีกทั้ง ทำให้คนในเว็บบอร์ดนั้นๆ รู้จักและเข้าเว็บไซต์ของเรามากยิ่งขึ้น

5). การใช้สื่อ offline

     อย่า ลืม… สื่อ offline ทีเดียวนะ เพราะสื่อ offline ให้ผลทาง online ได้ดีทีเดียว โดยสื่อ offline ที่เป็นที่นิยมกันมากคือ การโฆษณาผ่านหนังสือพิมพ์ แต่สื่อเหล่านี้ ต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างมาก ดังนั้น อาจจะทำในสื่อ offline แบบอื่นๆ เช่น ที่คั่นหนังสือ ทำสติกเกอร์ติดรถ หรือ ใส่เสื้อที่มีชื่อเว็บไซต์ของเราเอง เพราะให้หลายๆ คนมองเห็นและคุ้นตากับชื่อเว็บไซต์เราได้มากที่สุด

6). การลงโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ

     การลงโฆษณาผ่านสื่อต่างๆ อันได้แก่ โทรทัศน์ วิทยุ ต่างๆ พยายามพูดถึงเว็บไซต์ของเราบ่อยๆ จะทำให้ผู้ฟัง คุ้นหู คุ้นตาได้เป็นอย่างดี

7). อื่นๆ

     การ โฆษณาประเภทสุดท้ายนี้ คือ การทำอย่างไรก็ได้ให้คนอื่นรู้จักเว็บไซต์ของเรา ง่ายๆ เลย ก็คือ การบอกเล่า ปากต่อปาก ซึ่งวิธีการนี้ เป็นการโฆษณาเว็บไซต์ของ google ที่มีชื่อเสียงได้อย่างปัจจุบัน อย่าดูถูก… อิทธิพลของการบอกเล่า เชียวนะ…. รับรองว่า ได้ผลแน่ๆ




  สร้าง Barcode แบบง่ายๆโดยใช้ Photoshop

-          ขั้นตอนที่ 1
ให้เรา NEW FILE ขึ้นมาก่อน จะเป็นขนาดไหนก็ใช้ได้ทั้งนั้น
ซึ่งในที่นี้ผมเลือกใช้ขนาด Dafault Photoshop Size [16.02x11.99]
ก็จะได้รูปประมาณนี้


-          ขั้นตอนที่ 2
ให้เราสร้าง Layer ขึ้นมาใหม่อีกอัน โดยกดตรงรูบกระดาษตรง Layer
จากนั้นใช้อุปกรณ์ Marquee tool ที่มีลักษณะเส้นเดี่ยว (Single row marquee tool)
เมื่อได้แล้วก็จิ้มลงไปในการทำงาน ที่ไหนสักที่หนึ่งก็จะได้เส้นประลากผ่านแบบนี้ 


  
-          ขั้นตอนที่ 3
      ให้เราเลือกสี Foreground color [รูบกรอบ 4 เหลี่ยมซ่อนกันสองอัน จิ้มไปตรงนั้นแล้วเลือกสีซะ]
จากนั้นก็ไปที่ Edit --> Fill ,Use = Foreground Color




-          ขั้นตอนที่ 4
ให้ไปที่ Fileter --> Noise --> Add Noise *ยังไม่ต้องยกเลิก Selection นะครับ ^^
จากนั้นก็ปรับค่าต่างๆตามรูปเลยครับ แล้วจิ้ม OK



-          ขั้นตอนที่ 5
ให้ทำการยกเลิกเส้น Selection โดยมาที่คำสั่ง Select --> Deselect
จากนั้นก็ให้เรายืดมันขึ้นมาโดยคำสั่ง Edit --> Free Transform (Ctri + T)
ยืดขึ้นมาจะได้ภาพแบบข้างล่าง



-           ขั้นตอนที่ 6
จากนั้นให้ Marquee tool [อยู่ที่เดียวกับ Single row marquee tool แต่เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า
สร้างเส้นสี่เหลี่ยมผืนผ้าจากนั้นให้ Fill สีขาวลงไป (Edit --> fill ,use = White)



แล้วทำการพิมพ์ Text ตัวเลขลงไปโดยใช้อุปกรณ์ Type tool  [เครื่องหมายตัว T ]



แล้วบาร์โค้ดสำหรับยิงราคาก็จะออกมามีหน้าตาแบบนี้





           วิธีสร้าง QR-Code ได้เองแบบฟรี
 

QR Code เป็นเรื่องเก่าและเรื่องใหม่ สำหรับคนเราในปัจจุบัน ในบทความนี้ผมจะเขียนบทความวิธีการสร้าง QR Code แบบๆฟรี ที่เราสามารถทำได้เองเสียแค่คุณอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ใส่เวลาไม่มากเลยคับในการทำไม่ 5 นาทีด้วยซ้ำ แต่ถ้าใครยังไม่รู้จักว่า QR Code คืออะไร

QR-Code สามารถอ่านอะไรได้บ้าง

ในช่วงเริ่มแรก QR Code สามารถอ่านได้เขียน ข้อมูล text , url ,email ,เบอร์โทรศัพท์ แต่ปัจจุบัน QR Code พัฒนาให้สามารถอ่าน ข้อมูลรูปแบบอื่นๆได้มากขึ้น เช่น VCard, Email Address, Event Calendar และ WiFi Network และยังสามารถปรับตกแต่งสีของ QR Code ได้ตามใจชอบอีกด้วย เอาละครับเราพอจะรู้เรื่อง QR Code พอคราวๆ วันนี้ผมจะเสนอ เว็บไซต์ที่บริการ สร้าง QR Code ขึ้นมาฟรีๆโดยมีทั้งเว็บไซต์บริการ ของประเทศไทย ซึ่งทำให้เราสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้นผมของยกตัวอย่างมาสัก 4 เว็บไซต์

ตัวอย่างเว็บไซต์บริการสร้าง QR Code ฟรี!!

 http://qrcode.ais.co.th/php/newqr-th.php (ของ Ais ประเทศไทย)   http://qrcode.thaiguild.com/ (ของไทยเช่นกัน)   http://zxing.appspot.com/generator/http://qrcode.kaywa.com/ Note: QR-Code จะมีเส้นจำนวนมากหากเราใส่ข้อมูลมาก และอาจจะส่งผลให้การอ่าน QR-Code ทำงานช้าลง และอาจจะอ่านไม่ได้เลย QR-Code ที่ถูกอ่านไปยัง URL จึงเป็นที่นิยมมากที่สุด   http://qrcode.ais.co.th/php/newqr-th.php (ของ Ais ประเทศไทย)










วิธีสร้าง QR - Code ถ้าเห็นบทความมีประโยชน์ กด link ให้เพื่อน 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น